เห็ดฟาง มีถิ่นกำเนิดจากประเทศจีนเป็นเห็ดที่ขึ้นตามกองฟาง ดอกตูมมีลักษณะเป็นก้อนกลมสีขาว มีเยื่อหุ้มกระเปาะคล้ายถ้วยรองรับ ฐานเห็ดเรียกว่า ผ้าอ้อมเห็ด เมื่อหมวกเห็ดเจริญเติบโตเต็มที่จะกางออกคล้ายร่ม ด้านบนของหมวกเห็ดจะสีเทาอ่อน หรือเทาเข้ม ผิวเรียบ และอาจมีขนละเอียดคลุมอยู่บาง ๆ คล้ายเส้นไหม ด้านล่างมีครีบดอกบาง ๆ ก้านดอกสีขาว เนื้อในแน่น ละเอียด ในประเทศไทยมีแหล่งปลูกหลายพื้นที่ เช่น สระบุรี นครนายก พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สงขลา ขอนแก่น กาฬสินธุ์ สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช เห็ดฟางนำมาปรุงอาหารได้หลายอย่าง เช่น ยำเห็ดฟาง เห็ดฟางผัด ต้มยำเห็ดฟาง และแกงเลียงใส่เห็ดฟาง เป็นต้น
มีสรรพคุณทางยา ด้วยเห็ดฟางมีสาร ช่วยป้องกันการเติบโตของไวรัส ที่ทำให้เกิดไข้หวัดใหญ่ ช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับไขมันในเส้นเลือด และโรคหัวใจได้ มีคุณค่าทางอาหาร ในเห็ดฟาง 100 กรัม โปรตีน 3.2 กรัม ไขมัน 0.2 กรัม คาร์โบไฮเดรต 5 กรัม แคลเซียม 8 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 18 มิลลิกรัม เหล็ก 1.1 มิลลิกรัมไนอะซิน 3.0 มิลลิกรัม วิตามินซี 7 มิลลิกรัม นำมาปรุงอาหารได้หลายอย่าง เช่น ยำเห็ดฟาง, เห็ดฟางผัด, ต้มยำเห็ดฟาง และแกงเลียงใส่เห็ดฟาง ปัจจุบันการเพาะเห็ดฟางในประเทศไทยมีหลากหลายรูปแบบ เช่น แบบกองสูง แบบกองเตี้ย เพาะจากเปลือกฝักถั่ว เพาะแบบโรงเรือนอุตสาห กรรม เพาะในถุงหรือในกระสอบ เพาะในตะกร้า เป็นต้น.
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ออนไลน์-เกษตร http://www.dailynews.co.th/agriculture/186085
วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556