ปุ๋ยใส่ส้ม

การใช้ปุ๋ยบุญพืชกับส้ม

ปุ๋ยใส่ส้ม

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

         ส้มสามารถปลูกได้ดีในดินที่มีการระบายน้ำดี เช่น ดินร่วน ดินร่วนปนทราย โดยมีการยกร่อง และควรใส่ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบ มีความอุดมสมบูรณ์สูง ดินควรมีสภาพความเป็นกรดเป็นด่างประมาณ 5.7-6.9 และเนื่องจากส้มเขียวหวานเป็นไม้ผลกึ่งเมืองร้อน จึงไม่ชอบอากาศที่ร้อนจัดหรือหนาวจัดเกินไป แต่ถ้าปลูกในพื้นที่ที่มีอากาศเย็นจะมีสีผิวเหลืองสวย
          ทางภาคเหนือจึงนิยมปลูกกัน เนื่องจากมีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม ส้มที่นิมยมปลูกมี 2 สายพันธุ์คือ ส้มโชกุน หรือชื่อใหม่เรียกกัน พันธุ์สายน้ำผึ้ง ปลูกกันมากใน อ.แม่อาย และ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และส้มเขียวหวาน พันธุ์บางมด นิยมปลูกกันมากในพื้นที่ จ.แพร่และ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ในการปลูกส้มควรมีแหล่งน้ำเพียงพอตลอดทั้งปีซึ่งจะช่วยให้ส้มเจริญเติบโตได้ดี และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ

การเตรียมพื้นที่ปลูก
พื้นที่ลุ่ม นิยมปลูกแบบยกร่อง แปลงดินหลังร่องกว้างประมาณ 6 เมตร ร่องน้ำกว้าง 1.50 เมตร ลึกประมาณ 1 เมตร และด้านล่างขอร่องน้ำกว้างประมาณ 0.7 เมตร ส่วนความยาวไม่จำกัดแนวแปลงควรอยู่ในแนวเหนือ-ใต้ เมื่อปรับพื้นที่เสร็จแล้ว ควรตากดินไว้ประมาณ 1-2 เดือน เพื่อให้ดินแห้ง ระยะปลูกประมาณ 3.5 เมตร ในพื้นที่ 1 ไร่ จะปลูกได้ประมาณ 60 ต้น
พื้นที่ดอน ไม่จำเป็นต้องยกร่อง ก่อนปลูกควรปรับพื้นที่ให้เรียบและไถกลบดินให้ลึกสัก 2 ครั้ง เพื่อให้ดินร่วนซุย ระยะปลูกประมาณ 5.5-6 x 5.5-6 เมตร ในพื้นที่ 1 ไร่ จะปลูกได้ประมาณ 45-50 ต้น

วิธีการปลูก
✔ควรปลูกในช่วงต้นฤดูฝน
✔ควรขุดหลุมปลูกให้มีขนาดกว้างและลึกประมาณ 50 เซนติเมตร ผสมดินกับปุ๋ยบำรุงต้นสะสมอาหารประมาณ 300-500 กรัม เข้าด้วยกันในหลุมให้สูง 2/3 ของหลุม ยกถุงกล้าส้มวางในหลุม แล้วใช้มีดกรีด 2 ข้างของถุงแล้วดึงถุงพลาสติกออก โดยระวังอย่าให้ดินแตก กลบดินที่เหลือลงไปในหลุม กดดินบริเวณโคนต้นให้แน่น
✔ปักไม้หลักและผูกเชือกยึดเพื่อป้องกันลมพัดโยก และหาวัสดุคลุมดินบริเวณโคนต้น เช่น ฟางข้าว หญ้าแห้ง รดน้ำให้โชก ทำร่มเงาเพื่อช่วยพรางแสงแดด

การใส่ปุ๋ย
🟢 ส้มต้นเล็ก หลังปลูก 1-2 เดือน ใส่ปุ๋ยบุญพืชสูตรบำรุงต้น สะสมอาหาร ประมาณ 1-2 กก./ต้น ใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมี ต้นละ 100 กรัม ทุกๆ 3 เดือน ค่อยๆเพิ่มปริมาณปุ๋ยตามขนาดต้น

🟠 ส้มอายุ 3-4 ปีขึ้นไป พร้อมให้ผลผลิต ฉีดพ่นต้าร์ต้าร์ สูตรไม้ผล อัตรา 200 ซีซี : น้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 15-30 วัน
– ก่อนออกดอก ใช้ปุ๋ยบุญพืชสูตร กระตุ้นตาดอกผสมร่วมปุ๋ยเคมี อัตรา 2:1 ส่วน
– เมื่อเริ่มติดผล-ระยะติดผลขนาดเล็ก ใช้ปุ๋ยบุญพืชสูตรบำรุงผลสร้างเนื้อจัมโบ้ ต้นละ 2กก. และให้ปุ๋ยเคมีตามสูตร
– เมื่อส้มติดผล 2 เดือนระยะผลเจริญเติบโต ใช้ปุ๋ยบุญพืชสูตรบำรุงผลสร้างเนื้อจัมโบ้ ต้นละ 2 กก. เริ่มฉีดพ่นต้าร์ต้าร์ สูตรไม้ผล อัตรา 200 ซีซี : น้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 7วัน
– เมื่อส้มติดผล 4 เดือนระยะผลเจริญเติบโต ใช้ปุ๋ยบุญพืชสูตรบำรุงผลสร้างเนื้อจัมโบ้ ต้นละ 2 กก. พ่นต้าร์ต้าร์ สูตรไม้ผล อัตรา 200 ซีซี : น้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 7 วัน
– เมื่อส้มติดผล 6-7 เดือน ใช้ปุ๋ยบุญพืชสูตรบำรุงผลสร้างเนื้อจัมโบ้ ต้นละ 2กก. และให้ปุ๋ยเคมีตามสูตร พ่นต้าร์ต้าร์ สูตรไม้ผล อัตรา 200 ซีซี : น้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 7 วัน
– ระยะผลโตเต็มที่เริ่มเปลี่ยนสี ใส่ปุ๋ยเคมีอีกครั้งเพื่อทำผลผลิตรอบสุดท้ายและค่อยๆลดปริมาณน้ำลง พร้อมกับฉีดพ่นต้าร์ต้าร์ สูตรไม้ผล อัตรา 200 ซีซี : น้ำ 200 ลิตร

🔴 ระยะหลับเก็บผลผลิต ทำการตัดแต่งกิ่งที่เป็นโรค กิ่งแก่นำไปเผาทำลาย แล้วให้ปุ๋ยสูตรบำรุงต้นสะสมอาหาร อัตรา 2-3 กก./ต้น ร่วมกับปุ๋ยเคมี แล้วให้น้ำเพื่อเร่งการแตกใบอ่อนใหม่

**หมายเหตุ ระยะการเจริญเติบโตในแต่ละช่วงอาจแตกต่างกันตามสภาพแวดล้อมแต่ละพื้นที่

การให้น้ำ  การให้น้ำเป็นสิ่งจำเป็นมากในการปฏิบัติดูแลรักษา เพราะถ้าปล่อยให้ส้มเขียวหวานขาดน้ำจะทำให้ต้นโทรม โรคและแมลงเข้าทำลายได้ง่าย

✔ระยะที่ปลูกใหม่ ๆ ควรให้น้ำทุกวัน หลังจากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์
✔ระยะเริ่มตั้งตัวได้แล้ว การให้น้ำควรให้วันเว้นแต่เมื่อส้มโตแล้วการให้น้ำจะต้องควบคุมให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับช่วงการเจริญเติบโตและสภาพทั่ว ๆ ไป
✔ระยะก่อนออกดอกจะต้องการน้ำน้อย เพื่อให้มีช่วงเก็บสะสมอาหาร
✔ส้มติดผลแล้วจะต้องการน้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงผลแก่
✔ระยะเข้าสีแล้วควรลดปริมาณน้ำลงจากปกติจะช่วยให้ผลส้มแก่เร็วขึ้น
✔ระยะก่อนการเก็บเกี่ยวประมาณ 2 สัปดาห์ ถ้างดการให้น้ำจะช่วยให้ส้มมีรสหวานขึ้น
✔การเพิ่มปริมาณน้ำให้ดินชุ่มชื้นอยู่เสมอ จะช่วยชะลอการสุกของผลส้มได้ประมาณ 20 วัน

การติดผล
ส้มจะเริ่มออกดอกตั้งแต่ปีแรกที่เริ่มปลูก ควรปลิดดอกและผลออกให้หมดเพื่อให้ต้นได้เจริญเติบโตเต็มที่ และไม่โทรม เมื่อส้มอายุได้ 3-4 ปีขึ้นไปหรือมีขนาดใหญ่และแข็งแรงพอ จึงให้มีการติดผลได้ โดยส้มจะใช้เวลาออกดอกจนถึงดอกบาน ประมาณ 20-25 วันจึงเริ่มติดผลไปจนผลแก่ 8-10 เดือนจึงเริ่มเก็บผลผลิตได้

การเก็บเกี่ยว
ถ้าเป็นส้มเขียวหวานจะนิยมใช้มือบิดโดยใช้มือจับบริเวณด้านใต้ผลส้มขึ้นไป แล้วหักพับให้ตรงส่วนขั้วผลไปด้านใดด้านหนึ่ง ผลส้มก็จะหลุดออกได้โดยง่าย ไม่ควรดึงผลโดยตรง ส่วนส้มสายน้ำผึ้งจะใช้กรรไกรตัดที่ขั้วผลให้ชิดกับเปลือกโดยไม่ให้ขั้วหลุด เป็นการยืดอายุการเก็บให้นานขึ้น

การกำจัดวัชพืช
ควรมีการกำจัดวัชพืชอยู่เสมอ โดยนิยมใช้เครื่องมือตัดหญ้าแบบสะพายไหล่ ซึ่งสามารถตัดต้นวัชพืชได้อย่างดี  ไม่ควรใช้สารเคมีในการกำจัดวัชพืชใกล้กับต้นส้ม เพราะส้มเขียวหวานเป็นพืชที่มีระบบรากตื้นอาจจะได้รับอันตรายจากสารเคมีที่ใช้กำจัดวัชพืชได้

โรคพืช/ศัตรูพืชที่สำคัญ
โรคแคงเกอร์ (Canker)
โรคกรีนนิ่ง
เพลี้ยไฟ (Thrips)
โรคขาดธาตุแมงกานีส (Mn) โรคขาดธาตุเหล็ก (Fe) โรคขาดธาตุแมกนีเซียม (Mg) โรคขาดธาตุสังกะสี(Zn)
โรคที่เกิดจากเชื้อรา
โรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสและมายโคพลาสมา

ข้อมูลจาก กรมวิชาการเกษตร