การใช้บุญพืชกับฟักทอง

ฟักทอง (Pumpkin) ชอบดินร่วนปนทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์ดีและมีการระบายน้ำดี ชอบดินเป็นกรดเล็กน้อย ชอบอากาศแห้ง ดินไม่ชื้นแฉะและน้ำไม่ขัง
ฤดูปลูก
ส่วนมากจะเริ่มปลูกในช่วงเดือนกุมภาพันธุ์-มีนาคม หรือในปลายฤดูฝน และต้นฤดูหนาวคือช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมและปลูกได้ดีที่สุดคือช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธุ์
การปลูกฟักทอง
การปลูกฟักทอง ควรใส่ปุ๋ยเพื่อปรับปรุงสภาพดินให้ร่วนซุยและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้ดินโดยใช้ปุ๋ยสูตรพลังบุญพืชหรือสูตรบำรุงต้นสะสมอาหาร อัตราไร่ละ 50 กก. แล้วจึงย่อยพรวนดินให้ร่วนซุยเก็บเศษวัชพืชต่างๆออกจากแปลงให้หมด  ถ้ามีฟางข้าวแห้งให้นำมาคลุมแปลงปลูก เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้าดินและเมล็ดพันธุ์จะงอกเป็นต้นกล้า ตั้งตัวได้เร็วการหยอดหลุมปลูกในแปลงจะได้ต้นกล้าที่แข็งแรง และโตเร็วกว่า การย้ายกล้าจากถุงมาปลูก หากหลุมใดไม่งอกแม้จะนำมาปลูกซ่อม ก็จะเจริญไม่ทัน แต่หากว่างไว้ จะกินเนื้อที่ว่างมากควรปลูกซ่อม แต่จะเก็บผลได้ช้ามาก
การดูแลรักษาฟักทอง

📌เมื่อต้นกล้างอกจะมีใบจริง2-3 ใบแล้ว ควรถอนแยกต้นที่ไม่สมบูรณ์ทิ้งไปเหลือต้นที่สมบูรณ์แข็งแรง เหลือหลุมละ 2 ต้น และรดน้ำทุกวัน

📌เมื่อต้นกล้าเจริญจนไม่มีใบจริง4 ใบ ช่วงนี้ให้ใส่ปุ๋ยพลังบุญพืชหรือปุ๋ยสูตรบำรุงต้นสะสมอาหารผสมร่วมปุ๋ยเคมี (21-0-0) อัตรา 2:1ส่วน ต้นละ 1 กำมือ ให้น้ำสม่ำเสมอ และฉีดพ่นทางใบด้วยต้าร์ต้าร์สูตร ไม้ผลทุก 30 วัน เพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพผลผลิต ช่วยให้ฟักทองมีภูมิต้านทานจากโรคหนอนแมลง
📌เมื่อฟักทองเริ่มออกดอก ใช้พลังบุญพืชร่วมปุ๋ยเคมี สูตร 13-13-2ึ7 (หรือใกล้เคียง) อัตรา 3 : 1 ส่วน  (หรือสูตรใกล้เคียงกันเช่น 1 14-14-21) โรยรอบๆต้นแล้วรดน้ำตามและใส่ปุ๋ยสูตรเดิมอีกครั้งเมื่อฟักทองเริ่มติดผลอ่อน (พันธุ์ฟักทองที่เป็นพันธุ์หนักให้ผลโตอายุเก็บเกี่ยวยาวนาน ดังนั้นการใส่ปุ๋ยให้ฟักทองพันธุ์หนักควรใส่มากกว่าพันธุ์เบา) ให้น้ำสม่ำเสมอ จนถึงก่อนเก็บประมาณ 1 เดือน
**การกำจัดวัชพืชควรทำในระยะแรก เพื่อให้ดินร่วนซุยและโปร่ง พอต้นฟักทองมีใบปกคลุมดินแล้วก็ไม่ต้องกำจัดวัชพืช**